กลุ่มเกษตรกร-ขนส่งเตือน ของกินของใช้อาจแพงขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า

ร่างงบประมาณออสฯ ฉบับล่าสุดได้รวมถึงการขึ้นภาษีผู้ใช้ถนนสำหรับพาหนะบรรทุกหนัก ซึ่งอาจบีบให้ชาวออสเตรเลียต้องจ่ายแพงขึ้นในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค

A woman removes a plastic bag from a shelf for vegetables at a supermarket in Sydney.

As inflation continues to rise in Australia, families and individuals across the nation are feeling the sting in their weekly trips to the supermarket. Source: Getty / Xinhua News Agency

ประเด็นสำคัญในข่าว
  • พรรคแรงงานเพิ่มภาษีผู้ใช้ถนนสำหรับพาหนะบรรทุกหนัก ซึ่งอาจทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มสูงขึ้น
  • กลุ่มขนส่งและเกษตรกรรมเตือนว่าค่าใช้จ่ายจากภาษีดังกล่าวมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ อาจทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ปิดตัวลงได้
  • จิม ชาลเมอร์ส (Jim Chalmers) รัฐมนตรีการคลังออส ฯ แย้งว่า การเพิ่มภาษีดังกล่าวนั้น “เป็นทางเลือกที่มีราคาแพงน้อยที่สุด”
ชาวออสเตรเลียอาจถูกบีบให้จ่ายแพงขึ้นเมื่อซื้อผัก ผลไม้ นมสด และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ภายในเวลาอีก 3 ปีข้างหน้า จากภาษีผู้ใช้ถนนสำหรับพาหนะบรรทุกหนักที่กำลังจะเพิ่มขึ้น

ภายในร่างงบประมาณแผ่นดินในรัฐบาลสหพันธรัฐฉบับล่าสุดระบุว่า รัฐมนตรีคมนาคมในรัฐบาลรัฐและมณฑลต่าง ๆ ได้ลงความเห็นให้เพิ่มค่าธรรมเนียมขึ้นร้อยละ 6 ต่อปี ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับยานพาหนะหนักเพิ่มขึ้นจากอัตราปัจจุบันที่ 27.2 เซนต์ต่อลิตรของขนาดเครื่องยนต์ดีเซลเป็น 32.4 เซนต์ต่อลิตรของขนาดเครื่องยนต์ ภายในปี ค.ศ.2025

กลุ่มขนส่งและเกษตรกรรมได้เตือนว่า การเพิ่มภาษีผู้ใช้ถนนสำหรับพาหนะบรรทุกหนัก (Heavy Vehicle Road User Charge) ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายเข้ารัฐอีก 1,100 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 4 ปี อาจบีบให้ธุรกิจบางรายต้องปิดกิจการ

ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้เริ่มเรียกเก็บมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 ซึ่งจะเก็บเพิ่มตามขนาดเครื่องยนต์ดีเซลเป็นรายลิตร ซึ่งใช้กับรถบรรทุก รถโดยสารประจำทาง (buses) และรถโคช (coaches) ซึ่งเรียกเก็บเพื่อหารายได้ในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมถนน
แต่ราคาที่เพิ่มขึ้นนั้นได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มขนส่งและเกษตรกรรม โดยระบุว่าบริษัทขนส่งและผู้ผลิตอาหารจะไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นได้

วอร์เรน คลาร์ก (Warren Clark) ประธานบริหารสมาคมขนส่งทางถนนแห่งชาติ (National Road Transport Association) ระบุว่า ค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 101 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณถัดไป และมากกว่า 391 ล้านดอลลาร์ภายในปีงบประมาณ 2026-27

"นั่นคือเงินมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ที่ธุรกิจขนส่งจะต้องหาเพิ่มมาจ่าย และหากพวกเขาไม่สามารถส่งผ่านราคาเหล่านั้นไปยังลูกค้าและผู้บริโภคในท้ายที่สุดได้ พวกเขาก็จะขาดทุน" คุณคลาร์กกล่าว
ริก กลาดิเกา (Rick Gladigau) ประธานเกษตรกรโคนมของออสเตรเลีย ระบุว่า การขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว ยังมีแนวโน้มที่จะกระทบต่อผู้ผลิตขั้นต้น ทั้งในต้นทุนอาหารสัตว์และค่าขนส่ง และสร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นกับธุรกิจของพวกเขา

"การเพิ่มขึ้นของภาษีรถบรรทุกหนักจะบีบเกษตรกรโคนมอย่างแน่นอน เนื่องจากค่าขนส่งนม หญ้าแห้ง ธัญพืช และสิ่งจำเป็นในทุก ๆ วันจะเพิ่มขึ้น สิ่งเหล่านี้มีแนวโน้มจะถูกส่งต่อไปยังเกษตรกร" คุณกลาดิเกากล่าว

บ็อบ แคทเทอร์ (Bob Catter) รัฐมนตรีอิสระจากรัฐควีนส์แลนด์ ระบุว่า ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันสูงขึ้น หรือบีบให้บริษัทต้องเลิกกิจการในที่สุด

"ไม่ว่าผู้บริโภคจะจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับผักและผลไม้ของออสเตรเลีย หรือเกษตรกรจะเดินจากที่ดินของพวกเขาไป ธุรกิจขนาดเล็กจะปิดตัวลง" คุณแคทเทอร์กล่าว

"บางสิ่งจะต้องยอมให้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่ยกเลิกค่าใช้จ่ายที่มีเล่ห์เหลี่ยมนี้ หรือไม่บริษัทขนส่ง เกษตรกร และธุรกิจขนาดเล็กก็จะถังแตก หรือเราทุกคนต้องจ่ายแพงขึ้นเมื่อไปซื้อของ"

แต่ จิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีการคลังของออสเตรเลีย ได้โต้แย้งว่า การเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้รับการตัดสินใจจากรัฐมนตรีคมนาคมจากทั่วออสเตรเลียแล้ว ในฐานะทางเลือกที่มีราคาแพงน้อยที่สุด

"ทางเลือกก็คือการเพิ่มขึ้น 10% และ 6% และเราเลือกการเพิ่มขึ้น 6%" คุณชาลเมอร์สกล่าว

"นี่คือการดำเนินการตามปกติของค่าธรรมเนียมผู้ใช้ถนนที่รัฐบาลของ จอห์น โฮเวิร์ด (John Howard) เริ่มประกาศใช้ในปี ค.ศ.2006"


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 
 

บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจ จาก เอสบีเอส ไทย

รัฐบาลออสฯ ขยายเกณฑ์โครงการประกันบ้านหลังแรก 1 ก.ค.นี้


Share
Published 15 May 2023 1:06pm
Updated 15 May 2023 1:13pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AAP


Share this with family and friends