Settlement Guide: การทำงานที่ยืดหยุ่น

Father working from home

การทำงานจากที่บ้านหลังโควิด Source: Aleksandar Nakic/Getty Images

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

การระบาดของโควิด 19 ผลักดันให้ธุรกิจทบทวน ปรับปรุง และสร้างรูปแบบใหม่ในการทำงานของเรา หลังคาดว่าการทำงานแบบที่ยืดหยุ่นจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ นายจ้างจะมีบทบาทสำคัญในการจัดการเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมและความเป็นอยู่ที่ดีของลูกจ้าง


LISTEN TO
Flexible work arrangements (a lesson from COVID-19) image

Settlement Guide: การทำงานที่ยืดหยุ่น

SBS Thai

23/11/202011:56
ผลการวิจัยล่าสุดของภาควิชาธุรกิจ มหาวิทยาลัยซิดนี่ย์ เผยว่าลูกจ้างออสเตรเลียส่วนใหญ่อยากทำงานจากที่บ้านต่อไปหลังโควิด 19


  • ลูกจ้างเรียกร้องให้มีการทำงานแบบผสมผสานแบบทางไกลหลังวิกฤตโควิด 19 
  • วัฒนธรรมใหม่ที่ให้ความไว้วางใจในการทำงานแบบทางไกลช่วยพัฒนากำลังใจและการทำงานของพนักงาน
  • การทำงานแบบยืดหยุ่นอาจมีข้อเสียหากพนักงานไม่สามารถแบ่งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้

รองศาสตราจารย์แมทธิว เบค ผู้ร่วมเขียนแบบสำรวจชี้ว่าผลกระทบของโควิด 19 ที่มีต่อธุรกิจจะแตกต่างจากสิ่งรบกวนอื่นๆ ในอดีตเพราะมันมีผลกระทบในระยะยาว
ตอนนี้เราได้ทำงานจากบ้านมาเกือบเก้าเดือนแล้ว และผู้คนเริ่มชินกับวิถีชีวิตที่ต้องทำงานจากบ้าน และทำงานจากที่บ้านได้ดีขึ้น หลายองค์กรเล็งเห็นว่าการทำงานจากบ้านเป็นทางเลือกที่สามารถทำต่อไปได้ และจะสนับสนุนให้ทำงานจากที่บ้านต่อไปในอนาคต
ผลการวิจัยพบว่าคนที่ทำงานในระดับผู้จัดการเลือกวันทำงานแบบทางไกลเพิ่มขึ้นถึงสองเท่าในช่วงที่มีการระบาด และงานประเภทธุรการเกือบสามเท่า

การวิจัยยังเห็นถึงการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเมื่อคนไม่ต้องเดินทางไปทำงาน
ส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ที่เราทำ เราพบว่าในระหว่างเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมคนออสเตรเลียประหยัดเวลาที่ตีราคาได้ประมาณเกือบสี่พันล้านดอลล่าร์ และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ถึงสองพันล้านดอลล่าร์
บริษัทบัญชีวอร์เรลส์ โซลเวนซี และฟอเรนซิก จ้างพนักงานเกือบสองร้อยคนจาก 33 ทำเลในออสเตรเลีย

นายอิวาน กลาวาส หุ้นส่วนของบริษัทวอร์เรลส์ในเมลเบิร์นเล่าว่า เขาคิดว่าประสิทธิภาพของการทำงานจะลดลงในช่วงแรกของการปิดเมืองที่กินเวลาสิบหกสัปดาห์ แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้าม
ในตอนแรก ผมคิดว่าความกังวลหลักของพวกเราทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจของเรา แต่รวมถึงคนที่เรารู้จักในสาขาอาชีพนี้ คือความเชื่อใจในตัวลูกจ้างในเรื่องของการทำงาน พวกเขาจะทำสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เทคโนโลยีจะทำได้อย่างไร มันจะจัดการอย่างไร แทบจะไม่น่าเชื่อว่าการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และเหตุผลก็เพราะพนักงานไม่ต้องเสียเวลาของพวกเขาไปกับการเดินทาง พนักงานไม่เสียเวลาไปกับการพูดคุยกันที่ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้นการทำงานของพวกเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างมาก
man on couch in zoom meeting
การประชุมออนไลน์จากที่บ้าน Source: Getty Images/South agency
คุณอิวาน กลาวาสกล่าวว่าการระบาดทำให้การทำงานทางไกลเป็นเรื่องปกติ และลูกจ้างของเขายังเรียกร้องให้มีการทำงานที่ผสมผสานการทำงานทางไกลเป็นแบบแผนของการทำงานต่อไป
พนักงานชอบการทำงานจากที่บ้าน พวกเขาชอบความยืดหยุ่นของมัน ผมคิดว่าการทำงานต่อไปในอนาคตจะมีแนวโน้มที่เวลาการทำงาน 50 เปอร์เซ็นต์จะทำจากที่บ้านและเวลาทำงานอีก 50 เปอร์เซ็นต์เป็นที่ในออฟฟิศในเมือง ประสิทธิภาพของการทำงานก็ไม่ได้ลดลงเลย จริงๆ แล้วอาจจะมีผลลัพธ์และประสิทธิภาพสูงกว่า สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือพนักงานมีความสุข พนักงานมีความสุขมากกว่าที่เคย
การวิจัยที่ถูกจัดจัดทำขึ้นโดย เรดแบก คอนเนก หนึ่งในบริษัทจัดอีเว้นต์และการประชุมดิจิทัลในออสเตรเลียพบว่า ผู้เข้าร่วม 86 เปอร์เซ็นต์อยากให้การทำงานจากที่บ้านได้มีอยู่ต่อไปอย่างถาวร

คุณเจฟ ดาวนส์ ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งเรดแบก คอนเนก เผยว่าผลการวิจัยบางส่วนทำให้เขาประหลาดใจ
ผมคิดว่าคนส่วนมากจะอยากอยู่บ้านและทำงานจากบ้าน 5 วันต่ออาทิตย์ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น ผมพูดได้เลยว่าคนส่วนมากมีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่จะอยากทำงานจากบ้านเพียงแค่ 2-3 วันต่ออาทิตย์ ดังนั้นผมได้เรียนรู้ว่าถึงแม้ว่าคนจะชอบการมีอิสระที่จะทำงานจากที่บ้านได้ พวกเขายังอยากมีปฏิสัมพันธ์ในการทำงานกับเพื่อนร่วมงานและการทำงานร่วมกันแบบที่ได้เห็นหน้ากันอยู่
คุณเจฟ ดาวนส์สังเกตว่าการให้ความไว้วางใจพนักงานในการจัดการตัวเองในเวลาทำงานทำให้พนักงานมีความพึงพอใจมากขึ้น
แค่ให้พวกเขาสามารถรับผิดชอบในการจัดการวันทำงานของพวกเขาและความไว้วางใจในพวกเขาที่จะ ‘เอาล่ะ ฉันทำงานจากที่บ้านนะ แต่ฉันก็ทำงานได้ดี’ ดังนั้นมันเหมือนกับการเคารพพวกเขาในระดับนึง ถึงแม้ว่านายจ้างอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ การให้ความเชื่อใจในระดับนึง บางทีถึงแม้ว่านายจ้างอาจจะไม่ชอบวิธีนี้นัก แต่พวกเขาชอบที่จะรับผิดชอบแบบนั้น และผมคิดว่าเวลาที่คุณให้ความไว้วางใจคนอื่นในระดับนึง พวกเขาจะพยายามที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง พวกเขาอยากที่จะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจนั้น
father and son having breakfast while working
พ่อและลูกทานอาหารเช้าด้วยกันระหว่างที่พ่อทำงานจากบ้าน Source: Getty Images/Momo Productions
ผลของโควิด 19 ทำให้วัฒนธรรมของการให้ความไว้วางใจในสถานที่ทำงานที่ต้องทำงานทางไกลเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ในหลายธุรกิจ

คุณซินดี้ เดรก ครูฝึกเรื่องธุรกิจที่เอ้าท์คัม บิสสิเนส กรุ๊ป ให้ความเห็นว่าขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของธุรกิจจะปรับวิธีการจัดการและสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้กับทีมงาน
เจ้าของธุรกิจหลายท่านเลิกที่จะบอกว่าคุณต้องทำนี่นะ ทำนั่นนะ พวกเขาพูดมาในทำนองว่าเราต้องการสิ่งเหล่านี้จากคุณนะ และเริ่มถามความคิดเห็นว่าคุณคิดว่าจะสามารถทำสิ่งนั้นได้เมื่อไหร่ในเวลาที่คุณมีและในสถานการณ์ของคุณตอนนี้ที่มีหลายสิ่งเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามการทำงานจากบ้านที่แสนสบายอาจเป็นดาบสองคมกับคนที่ไม่สามารถปิดสวิตช์ได้ ทำให้มีแนวโน้มที่จะต้องพิสูจน์การทำงานของพวกเขาด้วยการทำงานมากจนเกินไป

คุณนาซานิน มาจีดิ ทำงานเป็นที่ปรึกษาธุรกิจที่สามารถพูดภาษาอิสราเอลได้ให้กับ  โครงการของรัฐบาลนิวเซาท์เวลล์ 

เธอเผยว่าการทำงานจากที่บ้านทำให้เธอมีสมาธิ
สำหรับฉัน ฉันทำงานได้ดีกว่าถ้าฉันทำงานจากที่บ้าน เพราะฉันไม่ไปพักเบรก ฉันสามารถติดต่อคนได้หลายคนเมื่อฉันอยู่บ้านและทำงานที่บ้าน มากกว่าตอนที่ฉันทำงานในออฟฟิศซึ่งมีหลายสิ่งมาทำให้ไขว้เขว
young mother on the phone with a small child
แม่ทำงานจากบ้านและเลี้ยงลูก Source: Getty Images/Jose Luis Pelaez Inc
คุณอิวาน กลาวาส หุ้นส่วนของบริษัทวอร์เรลส์ชี้ว่าถึงแม้ว่าการทำงานทางไกลจะมีผลดีหลายอย่าง แต่ก็มีความท้าทายที่ซ่อนอยู่หลายอย่างเช่นกัน เพราะเส้นแบ่งระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวอาจจะไม่ชัดเจน

เขาคิดว่าผู้นำด้านธุรกิจต้องรับมือกับความท้าทายเหล่านี้และมั่นใจว่าพวกเขาทำทุกอย่างให้ความเครียดของพนักงานลดน้อยลง
มนุษย์ชอบที่จะอยู่ร่วมกัน ความกังวลอย่างเดียวที่เรามีในตอนนั้นคือเราต้องมั่นใจว่าพนักงานของเรามีส่วนร่วม พวกเขาเริ่มจะเหนื่อยล้าแต่พวกเขาก็มีมักจะไม่ขอลาหยุดเพราะพวกเขาอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว คุณจะพูดยังไงล่ะ ‘ฉันป่วย ฉันขออยู่บ้าน ในขณะที่ฉันก็อยู่บ้านอยู่แล้ว’ สิ่งนี้เป็นแนวความคิดที่เปลี่ยนไป
ในขณะที่มาตรการเริ่มผ่อนคลาย หลายบริษัทก็เริ่มคิดที่จะเปิดออฟฟิศและสถานที่ทำงานอีกครั้ง

คุณเจฟ ดาวน์ จากเรดแบก คอนเนก กล่าวว่าการทำข้อตกลงที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกจ้างสามารถบรรเทาความเครียดที่ไม่จำเป็นและช่วยหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้า
มันทำได้โดยการให้ความยืดหยุ่นของเวลา อาจจะทำงาน 4 วันและมีชั่วโมงทำงานมากกว่าเดิมใน 4 วัน ทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน บางคนก็แบ่งเวลาทำงานของเขาเอง ถ้าพวกเขามีลูก พวกเขาสามารถไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนหรืออะไรประมาณนั้น พวกพเขาอาจจะพักชั่วโมงนึงในตอนเช้าและอีกหนึ่งชั่วโมงในตอนบ่าย และพวกเขาสามารถเพิ่มเวลาการทำงานของเขาได้ในตอนเย็นเมื่อเด็กๆ เข้านอน
หลายคนอาจมีเหตุผลต่างกันในการค้นหางานที่มีความยืดหยุ่น แต่สิ่งสำคัญที่ต้องระลึกถึงคือไม่ใช่ว่างานทุกอย่างจะทำแบบทางไกลได้ทั้งหมด

ลักษณะงานของคุณมักเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในการเจรจาเรื่องการจัดการงานแบบที่มีความยืดหยุ่น

การมีความคิดที่ชัดเจนว่าคุณจะบรรลุจุดมุ่งหมายของคุณได้อย่างไรในการทำงานแบบยืดหยุ่นสามารถช่วยให้นายจ้างของคุณเชื่อใจคุณว่าจะทำงานในส่วนของคุณให้ได้ตามที่คาดหวัง
man with a laptop on beach
บางคนทำงานริมชายทะเล Source: Getty Images/Valeriya Tikhonova
คุณซินดี้ เดรก ครูฝึกเรื่องธุรกิจแนะนำให้ศึกษา  หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเจรจาชั่วโมงทำงานที่ยืดหยุ่นอย่างไร หรือหากคุณไม่ทราบถึงสิทธิในการทำงานในระหว่างการระบาดของโควิด
เว็บไซต์ของหน่วยงานมีเครื่องมือและเคล็ดลับดีๆ และคำแนะนำที่มีตัวอย่างประกอบว่าคุณสามารถเจรจาในสถานการณ์ต่างๆ อย่างไร ทางหน่วยงานอัพเดทข้อมูลที่มีประโยชน์เสมอและมีข้อมูลที่ดีสำหรับทั้งลูกจ้างและนายจ้าง
สำหรับความช่วยเหลือด้านภาษา โทรขอรับบริการแปลและล่าม  ที่ 13 14 50


ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share