VIVA: การซื้อกิจการในช่วงโควิด-19

Open for business

Open for business Source: Getty Images/mixetto

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไปยังภาคธุรกิจ แต่จากการที่หลายสิ่งต้องหยุดชะงัก ทำให้เจ้าของธุรกิจที่ตกอยู่ในความยากลำบากจำนวนไม่น้อย เริ่มมองหาช่องทางในการแบ่งเบาภาระด้วยการขายต่อกิจการของตนเอง ซึ่งหากมีแผนและกลยุทธ์อย่างถูกต้อง การซื้อกิจการในช่วงวิกฤตนี้ก็อาจเป็นการตัดสินใจที่คุ้มค่า


กดปุ่ม 🔊ที่ภาพด้านบนเพื่อฟังรายงานเรื่องนี้

ธุรกิจขนาดเล็กเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจของออสเตรเลีย จากข้อมูลเมื่อปี 2019 ของคณะกรรมาธิการธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจครอบครัว (The Small Business and Family Enterprise Ombudsman) ระบุว่า ธุรกิจขนาดเล็ก คิดเป็นร้อยละ 35 ของผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ขณะที่การจ้างงานของธุรกิจขนาดเล็ก คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของแรงงานทั้งหมดในประเทศ

แต่ภัยคุกคามจากการระบาดของไวรัสโคโรนาภายในชุมชน ได้ทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องปิดกิจการ โดยเฉพาะในรัฐวิกตอเรียซึ่งขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก

คุณปีเตอร์ สตรอง (Peter Strong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสภาองค์กรธุรกิจขนาดเล็กออสเตรเลีย (COSBOA) กล่าวว่า การแพร่ระบาดใหญ่นั้น ได้ทำให้เกิดตลาดของผู้ขายกิจการเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้ส่งเสริมให้ผู้ที่กำลังซื้อกิจการทำการศึกษาก่อนการตัดสินใจ
Lone shopper
Source: AAP Image/AP Photo/Asanka Brendon Ratnayake
คุณสตรองยังกล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก่อนที่จะซื้อกิจการ คือดูว่าธุรกิจเหล่านั้นสามารถดำเนินการต่อไปได้ รวมถึงแนะนำให้นักบัญชีให้ความช่วยเหลือในการวิเคราะห์ตัวเลขต่าง ๆ ที่คุณได้รับจากเจ้าของธุรกิจ ว่าเป็นข้อมูลที่แท้จริงและมีเหตุผล แม้ว่าตัวเลขทางบัญชีจะดูมีความหวังในภาพรวม โดยเฉพาะในในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คุณสตรองได้เตือนให้ผู้ซื้อกิจการให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องสัญญาเช่า รวมถึงประวัติของผู้ปล่อยเช่า

“หากเป็นผู้ปล่อยเช่ารายใหญ่ ผมจะระมัดระวังเป็นพิเศษว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับคุณอย่างไรในช่วงวิกฤต” คุณสตรองกล่าว

คุณแมทธิว ฮอลแลนด์ (Mathew Holland) นายหน้าธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซื้อขายกิจการ Allbiz กล่าวว่า บริษัทของเขาได้รับการสอบถามในเรื่องโอกาสทางธุรกิจมากกว่าปกติ จากผู้อพยพย้ายถิ่นซึ่งมีอายุมาก ซึ่งเป็นฐานลูกค้าของเขาเป็นจำนวน 1 ใน 3

คุณฮอลแลนด์กล่าวว่า ผู้อพยพย้ายถิ่นซึ่งอยู่ในวัยผู้ใหญ่เหล่านี้ ตามปกติแล้วจะซื้อกิจการต่าง ๆ มากกว่าที่จะไปหางานทำเช่นเดียวกับผู้คนกลุ่มอื่น ๆ
Checking out a supermarket
Checking out a supermarket Source: Getty Images/chee gin tan
เมื่อช่วง 6 – 8 เดือนที่ผ่านมา ผู้คนจะเลือกซื้อธุรกิจอาหาร กิจการแฟรนไชส์อาหาร หรือธุรกิจใดก็ตามที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้า Westfield โดยมีสัญญาเช่าระหว่าง 3 – 5 ปี จากนั้นก็ดำเนินกิจการต่อไป แต่ในตอนนี้ การซื้อกิจการ นั้นแทบไม่เกิดขึ้น

“พวกเขาต้องการมองหาอะไรก็ตามที่นอกเหนือจากนั้น แต่มันไม่มีการซื้อขายเกิดขึ้นเพื่อที่จะชี้วัดอะไรได้ในตอนนี้ นอกจากความสนใจที่ผู้คนมีมากขึ้นในการซื้อกิจการ” นายฮอลแลนด์กล่าว 

เพื่อเป็นการรับรู้ถึงความสำคัญของธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งสร้างเม็ดเงินเกือบ 1 ใน 3 ของระบบเศรษฐกิจภาคเอกชน ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย สำนักงานพัฒนาธุรกิจขนาเล็ก (Small Business Development Corporation) ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ได้ให้บริการคำปรึกษาทางโทรศัพท์และทางออนไลน์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สำหรับเจ้าของกิจการ รวมถึงผู้ที่กำลังจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย

คุณลิซา เลเจนา (Lisa Legena) ผู้จัดการแผนกให้คำปรึกษาด้านธุรกิจ กล่าวว่า การสอบถามส่วนมากมาจากผู้อพยพย้ายถิ่น ซึ่งส่วนมากลังเลที่จะตัดสินใจซื้อกิจการ เนื่องจากความไม่แน่นอนในวิกฤตไวรัสโคโรนา

เธอกล่าวว่า ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปนั้น กำลังมองหาการลงทุนในธุรกิจที่พวกเขาสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ในช่วงวัยเกษียณ แต่อย่างไรก็ตาม เธอมีความกังวลว่า สถานการณ์วิกฤตไวรัสอาจมีความไม่แน่นอน

“แต่ละรัฐและมณฑลทั่วออสเตรเลีย มีมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดที่แตกต่างกัน และเรายังคงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของไวรัสขึ้นในชุมชนอีกครั้งในอนาคต” คุณเลเจนากล่าว

คุณเลเจนาแนะนำว่า ควรเริ่มต้นจากการศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้เป็นอันดับแรก ว่าสินค้าและบริการที่กิจการของคุณต้องการจะขายหรือให้บริการนั้นมีความจำเป็นในช่วงนี้หรือไม่

เธอกล่าวอีกว่า สิ่งที่ขาดหายไป ซึ่งทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ประสบความล้มเหลวในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา คือความสามารถด้านการตลาดและการซื้อขายทางออนไลน์ ในช่วงที่กิจการต่าง ๆ ต้องปิดตัวลงเป็นเวลาหลายสัปดาห์ จากมาตรการจำกัดการแพร่ระบาด
Buying a business during Covid-19
Inspecting business Source: Getty Images/DragonImages
ด้านคุณสตรอง เชื่อว่า เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กนั้น ดูเหมือนว่าจะมองโลกในแง่ดีมากจนเกินไปเมื่อคิดจะซื้อกิจการ แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ช่วงนี้ มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่ให้อารมณ์อยู่เหนือการตัดสินใจ

“ดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ธุรกิจของคุณจะสามารถดึงลูกค้ากลับมาได้หรือไม่ หากคุณไม่ได้อยู่ในเมลเบิร์น ถ้าเกิดล็อกดาวน์ขึ้นอีกครั้งจะเป็นอย่างไร  ธุรกิจของคุณจะอยู่รอดหรือไม่หากไม่มีลูกค้าติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือนในช่วงล็อกดาวน์​จากนั้นคุณค่อยเริ่มตัดสินใจ” คุณสตรองกล่าว

ด้านคุณเลเจนา กล่าวว่า มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะพิจารณาถึงปัจจัยแวดล้อมก่อนที่คุณจะซื้อกิจการ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการเปิดปัญหาเมื่อต้องชำระค่าสินเชื่อธุรกิจ หรือค่าเช่าพื้นที่ประกอบการ ในกรณีที่คุณมีความจำเป็นต้องปิดกิจการจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ผศ.ดร.นิติกา การ์ก (Nitika Garg) ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมผู้บริโภค จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ เชื่อว่าผู้บริโภคมีความเหนื่อยหน่ายจากการที่ต้องอยู่อาศัยและทำงานอยู่ภายในบ้าน ขณะที่อีกหลายคนต้องดูแลลูก ๆ และบางส่วนต้องศึกษาเล่าเรียน เธอเชื่อว่า ยังมีโอกาสอีกมาก หากผู้ดำเนินกิจการมีมุมมองที่ริเริ่มในช่วงวิกฤตไวรัสครั้งนี้

“ยังมีโอกาสสำหรับธุรกิจประเภทใหม่ที่จะเกิดขึ้น มันอาจเป็นการบริการ อย่างเช่น โปรแกรมกิจกรรมที่บ้าน เพื่อให้ผู้คนกระฉับกระเฉง อย่างโปรแกรมเล่นโยคะ การทำสมาธิ หรือการทำกับข้าวที่บ้าน” ผศ.ดร.การ์กกล่าว  

แม้ไม่ใช่ธุรกิจทั้งหมดที่ขายกิจการจะประสบความสำเร็จ และดำเนินกิจการต่อไปได้ ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คุณเลเจนาได้กระตุ้น  ให้ผู้รับช่วงซื้อต่อกิจการนั้นคิดให้ถี่ถ้วนเกี่ยวกับทักษะทางธุรกิจของตนเอง รวมถึงราคาที่พวกเขาต้องจ่ายเพื่อซื้อกิจการ และวิเคราะห์ว่าทำเลที่ตั้งของกิจการจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้หรือไม่

เธอกล่าวอีกว่า มีผู้คนที่ตื่นเต้นกับการได้เป็นเจ้าของกิจการ ทุ่มเทเงินออมทั้งชีวิตในธุรกิจใหม่ อย่างร้านกาแฟในท้องถิ่น แต่แล้วกิจการของพวกเขาก็ล้มเหลว

การทำธุรกิจนั้นต้องใช้ทักษะเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องของมนุษย์สัมพันธ์ และความมุ่งมั่นที่มีต่อกิจการ มันเป็นเรื่องแตกต่างกันกับเมื่อคุณเป็นลูกค้า” คุณเลเจนากล่าว

นั่นเป็นเหตุผลที่คุณฮอลแลนด์เชื่อว่า การขาดความต่อเนื่องในการเปลี่ยนผ่านระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายนั้น อาจทำให้เจ้าของกิจการคนใหม่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะหากผู้เข้าซื้อกิจการมีความมั่นใจทางธุรกิจมากจนเกินไป

“ผมเคยพบเห็นสถานการณ์ที่ผู้ซื้อกิจการเชื่อว่ารู้จักธุรกิจเป็นอย่างดี พวกเขาไม่ต้องการผู้ขายกิจการอีกต่อไป และต้องการให้พวกเขาย้ายออกจากพื้นที่ในทันทีที่ถึงวันรับช่วงกิจการ  แต่ผมแนะนำว่า ควรมีการทำข้อตกลงไม่ว่าการส่งต่อกิจการจะเป็นระยะเวลาเพียงใดก็ตาม เวลาตามธรรมเนียมนั้นอยู่ที่ 2 สัปดาห์ แต่มันก็ไม่ผิดหากคุณทำข้อตกลงเป็นเวลา 2-3 เดือน หรือ 6 เดือน” คุณฮอลแลนด์กล่าว
Petrol station
Source: Getty Images/FG Trade
ด้าน ผศ.ดร.การ์ก แนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เวลาในการวางวิสัยทัศน์ของธุรกิจให้ไกลกว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้

“ทำให้แน่ใจว่า แผนธุรกิจของคุณมีทั้งแผนและเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว เพราะในขณะที่คุณกำลังเริ่มต้นโครงการใดในช่วงวิกฤตไวรัส คุณต้องทำให้แน่ใจว่า มันจะไปต่อได้เมื่อวิกฤตไวรัสได้ผ่านพ้นไปแล้ว” ผศ.ดร.การ์กกล่าว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมในการเริ่มต้นธุรกิจ คุณสามารถโทรศัพท์ไปที่คณะกรรมาธิการธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจครอบครัว (The Small Business and Family Enterprise Ombudsman) ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1300 650 460 วันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8:00 – 20:00 น.


ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เขตมหานครของเมลเบิร์น (Metropolitan Melbourne) อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 4 และจะต้องปฏิบัติตามการห้ามออกจากเคหสถานระหว่างเวลา 20.00 น.-5.00 น.

ในระหว่างช่วงเวลาที่ห้ามออกจากเคหสถาน ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อไปทำงาน หรือไปรับบริการด้านสุขภาพหรือไปรับการดูแลที่จำเป็น หรือเพราะเหตุผลด้านความปลอดภัยเท่านั้น

ระหว่างเวลา 5.00 น. เป็นต้นไปจนถึงเวลา 20.00 น. ประชาชนในเมลเบิร์นจะสามารถออกจากบ้านได้ เพื่อออกกำลังกาย เพื่อไปซื้อของจำเป็นและไปรับบริการที่จำเป็น ไปทำงาน ไปรับบริการด้านสุขภาพ หรือไปให้การดูแลญาติที่ป่วยหรือผู้สูงอายุเท่านั้น

รายละเอียดข้อจำกัดทั้งหมดสามารถดูได้  ชาวรัฐวิกตอเรียทุกคนจะต้องสวมหน้ากากหรือผ้าปกคลุมจมูกและปากเมื่อออกจากเคหสถาน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ใด

ประชาชนในออสเตรเลียต้องอยู่ห่างกับผู้อื่นอย่างน้อย 1.5 เมตร คุณสามารถตรวจดูว่ามีข้อจำกัดใดบ้างที่บังคับใช้อยู่ในรัฐและมณฑลของคุณ 

การตรวจเชื้อไวรัสโคโรนาขณะนี้สามารถทำได้ทั่วออสเตรเลีย หากคุณมีอาการของไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ให้ติดต่อขอรับการตรวจเชื้อได้ด้วยการโทรศัพท์ไปยังแพทย์ประจำตัวของคุณ หรือโทรศัพท์ติดต่อสายด่วนให้ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (Coronavirus Health Information Hotline) ที่หมายเลข 1800 020 080

รัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลียยังได้มีแอปพลิเคชัน COVIDSafe เพื่อติดตามและแจ้งเตือนผู้ที่พบปะใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งคุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้จากแอปสโตร์ (app store) สำหรับโทรศัพท์มือถือของคุณ อ่านเกี่ยวกับแอปพลิเคชันนี้ 

คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย

เหตุผลสำคัญที่ทำให้นักเรียนต่างชาติในออสฯ กลับบ้าน


Share